วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รีวิวที่พัก ต้นไม้ใหญ่รีสอร์ท อำเภอครบุรี นครราชสีมา

ที่พักสไตล์รีสอร์ทกลางเมืองที่ร่มรื่นไปด้วยบรรยากาศสีเขียวของต้นไม้โดยรอบๆ ภายในตัวรีสอร์ท และที่สำคัญมีบ้านต้นไม้ใหญ่เป็นไฮทไลท์สำคัญของที่นี่...



ผมและภรรยาได้วางแผนไปเที่ยวโคราชในช่วงวันหยุดยาว แต่ระหว่างทางที่จะไปตัวเมืองโคราชได้มีโอกาสไปแว่ะเที่ยว และพักค้างคืนที่อำเภอครบุรี อำเภอเล็กๆ แต่มีเนื้อที่เป็นขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของจังหวัดนครราชสีมา จุดประสงค์ที่ไปแว่ะพักที่ครบุรีก็เพื่อเยี่ยมเยียนญาติ และเที่ยวชมเมืองครบุรีไปในตัว เพราะปกติก็แทบจะไม่มีกิจอันใดที่จะต้องผ่านไปทางนั้น ถือเป็นโอกาสเหมาะ และเป็นโอกาสดี สำหรับการมาเยือนเมืองโคราชในครั้งนี้

ที่อำเภอครบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบ Unseen Thailand แบบที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยหลายแห่ง เช่น สะพานไม้ 100 ปี ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่ชาวบ้านแถวนั้นใช้เป็นเส้นทางเดินตัดผ่านท้องไร่นา มีความยาวเกือบกิโล ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง ส่วนอีกที่หนึ่งที่น่าเที่ยวก็คือ หาดจอมทอง ซึ่งเป็นชายหาดทะเลน้ำจืด ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำมูลบน 

กลับมาที่เรื่องที่พักกันดีกว่า สำหรับใครที่ไปครบุรีก็น่าจะต้องรู้จักที่พักสไตล์รีสอร์ทที่มีชื่อว่า ต้นไม้ใหญ่รีสอร์ท เพราะเป็นที่พักกลางเมือง ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีในตัวเมืองครบุรี เรียกว่าถามใครในแถบนั้นไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่ รีสอร์ทแห่งนี้ค่อนข้างใหม่มากๆ เท่าที่ทราบเพิ่งจะเปิดบริการมาไม่นาน ทุกอย่างดูสมบูรณ์และดูดี   รีสอร์ทนี้ไม่ได้อยู่ติดริมถนน แต่ก็เข้ามาในซอยแค่ไม่ถึง 10 เมตร จะเรียกว่าซอยก็ไม่ถูกเรียกว่าทางเข้ารีสอร์ทยังได้เลย เป็นทางเข้าออกทางเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความปลอดภัย 



เนื้อที่บริเวณของต้นไม้ใหญ่รีสอร์ทมีขนาดประมาณ 2 ไร่ ซึ่งก็ไม่ใหญ่มาก แต่ก็กำลังดี เมื่อวิ่งจากถนนใหญ่ก็จะเห็นป้ายทางเข้ารีสอร์ทอยู่หน้าก็เลี้ยวรถเข้ามาได้เลย และสิ่งแรกที่เห็นก็คือประตูป้ายรีสอร์ทขนาดใหญ่ วึ่งตอนกลางคืนจะเปิดไฟสว่างสวยมาก   เคาท์เตอร์จะอยู่ด้านซ้ายมือตรงประตูทางเข้า  ถัดออกไปจะเป็นลานจอดรถ ซึ่งก็มีทั้งแบบทีหลังคา และแบบเป็นลานจอด ห้องพักที่นี่อยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถมากนัก เรียกว่ากำลังดี   ห้องพักบางห้องสามารถนำรถไปจอดด้านหน้าประตูได้เลย ซึ่งก็ต้องสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ดู

ที่นี่บริการห้องพัก แต่ไม่มีอาหารเช้า แต่ช่วงที่ไปเห็นว่ากำลังจะเปิดบริการร้านเสต็กภายในบริเวณรีสอร์ทเร็วๆนี้ แต่ถึงยังไม่มีอาหารก็ไม่น่ากังวลเพราะเดินออกมาข้างนอกก็จะเจอกับร้านอาหารริมทาง และ 7-eleven!! ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง รอดตายหมดห่วงแฮ่ะๆ

ห้องพักที่นี่จะมีขนาดเดียวกันและราคาเท่ากันหมด เพียงแต่บางห้องจะเป็นหลังเดี่ยวชั้นเดียว บางห้องจะอยู่ชั้นบน (แยกกันในแต่ละห้อง) ก็ขึ้นอยู่ว่าถ้ามากันเป็นครอบครัวใหญ่อาจจะพักทั้งข้างบนและข้างล่างเลยก็ได้    ส่วนของผมเลือกพักแบบห้องเดียวที่ตั้งแบบโดดๆ ชั้นล่าง เบอร์ K18 (ที่นี่จะใช้ตัวอักษร K เป็นตัวอักษรนำทุกห้อง) 



เมื่อเข้าไปในห้องพักก็จะพบกับเตียงนอนที่ดูดี  ที่บอกว่าดูดีคือ ดูจากวัสดุผ้าปูที่นอนที่ใช้เป็นของดี มีทีวีแบบจอแบนแขวนติดผนัง มีตู้เสื้อผ้า กาต้มน้ำร้อน ชากาแฟสำเร็จรูป  สำหรับสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดในห้องก็คือห้องน้ำครับ โดยปกติเวลาไปพักรีสอร์ทตามต่างจังหวัด ผมมักจะเจอกับห้องน้ำที่ไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่  แต่ที่นี่ห้องน้ำเขาโล่งสะอาด กระเบื้อง อ่างล้างหน้าก็ดูดีมีราคา เหมือนห้องพักโรงแรม มีผนังกั้นระหว่างห้องอาบน้ำกับห้องส้วม ทำให้น้ำไม่กระเด็นเลอะเทอะ ด้านบนผนังกั้นสามารถวางอุปกรณ์ พวกขวดชมพูไว้ใกล้ๆที่อาบน้ำได้ค่อนข้างมาก แสดงถึงความใส่ และเข้าใจลูกค้าเป็นอย่างดี (บางที่แทบไม่มีที่วางขวดแชมพู ต้องวางกับพื้นห้องน้ำ)  

 เนื่องจากภายในห้องก้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนห้องพักทั่วไป  แต่ผมทำไมถึงรู้สึกดี ก็เพราะเขาใส่ใจรายละเอียด ในการตกแต่ง  การใช้สี การ paint ลวดลายบนกำแพงเป็นรูปเล็กๆ ด้วยการวาดจากแปรงทาสีธรรมดา แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าห้องมีการตกแต่งที่ดี ได้   สิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึง คือหัวเตียง สามารถวางของได้มาก พวกโทรศัพท์มือถือในขณะชาร์ตตอนกลางคืน ปลั๊กไฟก็อยู่ไม่ไกลจากหัวเตียง สามารถนอนเล่นโทรศัพท์ไปชาร์ตไปได้เลย!!



สำหรับบรรยากาศภายนอกห้อง เมื่อเปิดประตูออกมาก็จะพบกับเก้าอี้และโต๊ะเล็กๆ วึ่งสามารถนั่งแล้วมองออกไปยังสนามหญ้า และต้นไม้ที่อยู่ตรงกลางรีสอร์ทได้พอดี ดูร่มรื่นเขียวขจีมาก  มีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ หลายมุมเลยทีเดียว


ไฮไลท์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นบ้านต้นไม้  ซึ่งส้รางอยู่บนต้นไม้ขนาดใหญ่อายุกว่าร้อยปี ที่ยังไม่ตาย เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิวบนบ้านต้นไม้นี้ได้ ถึงสองชั้น  นอกจากนี้ยังมีหอคอยสูงที่อยู่ด้านข้าง มีความสูงมากกว่าบ้านต้นไม้นี่เสียอีก  เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมีจุดเชื่อมต่อสามารถเดินไปยังบ้านต้นไม้ได้ หรือจะเดินขึ้นไปชั้นบนสุดของหอคอยเพื่อชมวิวเมืองครบุรีก็ยังได้ 





















ก็สมกับชื่อรีสอร์ทนะครับ เพราะมีต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี เหมาะสำหรับการพักในช่วงกลางคืน ก่อนที่จะออกไปทำกิจกรรมท่องเที่ยว หรือทำธุระในเมืองหรือในย่านบริเวณแห่งนั้น อ๋อลืมไปกับราคาที่ไม่แพง อยู่ที่คืนละ 550 บาท ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้สำหรับสถานที่พักที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการในระหว่างการเดินทางไปเมืองโคราชในช่วงวันหยุดนี้ครับ

ต้นไม้ใหญ่รีสอร์ท อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
พิกัด 14°31'41.7"N 102°14'31.9"E
         14.528252, 102.242194

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

Suzuki Swift เจ้าหนูขาว reviewed by AutoNAT

ประมวลภาพ และมินิรีวิวเจ้า Suzuki Swift จิ๋วแจ๋วเจาะโลก รถน่าขับ ซึ่งเราให้ฉายาว่า "เจ้าหนูขาว" ตามชื่อที่เรียกรถที่ผมเคยใช้ตอนอยู่ออสเตรเลีย (ไดฮัทสุ ชาเลร์จ) และรูปร่างของมันก็เมือนกับหนูขาวตัวย่อมๆ ตัวหนึ่งด้วย  สำหรับเจ้าหนูขาวคันนี้เป็นรุ่น GL เกียร์ธรรมดา (ไม่ใช่ตัว Top สุด) สาเหตุที่ต้องรุ่นนี้ คันนี้เพราะสมาชิกที่บ้านชอบเกียร์ธรรมดา แต่เกียร์ธรรมดาของคันนี้นั่งสบาย ขับง่ายกว่าที่คิด 



ภายในมีอุปกรณ์ที่จำเป็นให้มาครบไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยพาว์เวอร์ กระจกไฟฟ้า ที่ปัดน้ำฝนหลัง (รุ่น GLX จะมีไล่ฝ้า และปุ่มปรับเครื่องเสียงบนพวงมาลัยมาให้)  พวงมาลัยเป้นแบบธรรมดาไม่หุ้มหนัง เหมือนกับในตัว TOP แต่ก็ให้ความรู้สึกในการจับได้สบาย ไม่น่าเกลียด  คอนโซลออกแบบมาดูดีมีชาติตระกูล ผิววัสดุ ดูดี ดุจดั่งรถเก๋ง Class D ราคา เฉียดล้านเลยทีเดียว  เบาะคนขับสามารถปรับกระดกขึ้นลงได้ เช่นเดียวกับพวงมาลัยที่ปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้นลง เข้าและออก) เบาะหน้านั่งสบาย  ส่วนเบาะหลังอาจจะสั้นและแคบไปหน่อยสำหรับคนที่มีความสูง 170 cm  ระบบความปลอดภัยก็มีมาให้ครบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า และเบรค ABS






ช่วงล่างไม่ถึงกับนุ่มนวลมากตามสไตล์รถเล็กฐานล้อสั้น แต่ก็มั่นใจในการขับขี่ ยางซีรีย์บาง 185/55 ขอบ 16 เต็มซุ้มดี (ใช้ล้อยางรุ่น GLX) แต่ยางแคบ และซีรีย์บางแบบนี้เวลาขับต้องใส่ใจและให้ความระมัดระวังเรื่องหลุมเป็นอย่างมาก เพราะอาจทำให้ล้อดุ้ง หรือแตกได้ การขับขี่ผ่านช่วงรอต่อถนนคอนกรีตจะรู้สึกได้ถึงอาการสะท้านเล็กๆผ่านช่วงล่างขึ้นมาถึงผู้โดยสารภายในรถ เนื่องจากพื้นรถไม่ได้หนามาก อีกทั้งยางซีรีย์บางก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รู้สึกถึงอาการนี้


พวงมาลัยไวไปนิด การขับขี่ที่ความเร็วระดับ 100-120 พอเอาอยู่ แต่เกินกว่านั้นจะเริ่มเครียด (เหมาะสำหรับขับในเมืองชิวๆ) เข้าซองจอดง่าย สั้นกระทัดรัด แต่ข้อเสียของรถแฮทเบกก็คือ เสา C จะหนาเป็นจุดบอดที่สำคัญ ทำให้ต้องเอี้ยวคอมองดีดี ข้อดีอีกข้อคือ ประหยัดน้ำมันมาก ขับรถใหญ่มานานพอมาขับรถเล็กสลับบ้างก็อาจจะมีเหวอๆนิดๆช่วงแรกๆ แต่สักพักก็จะปรับตัวได้ กลายเป็นขับสนุก ขับสบายไปเลย  อัตราการสิ้นเปลืองหายห่วงเพราะรถคันนี้จัดอยู่ในประเภทอีโคคาร์ หรือรถประหยัดน้ำมัน เต็มถังวิ่งได้เกิน 500 กิโลชิวๆ  เครื่องยนต์ 1,200 cc นิดๆ แต่ก็สามารถพาคุณไปดอยสุเทพได้แบบสบายๆ 



กับยอดจองถล่มทะลายในช่วงเปิดตัวใหม่ ที่คนซื้อยอมรอเป็นปี ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เจ้าหนูขาวคันนี้ไม่ธรรมดา   ตอนนี้ก็หวังว่าเจ้าหนูขาวตัวโมเดลเชทที่จะมาใหม่ในปี 2017 นี้จะสร้างความประทับใจเหมือนรุ่นพี่คันนี้หรือเปล่า ต้องคอยติดตามกัน

All New Pajero Sport 2016 Reviewed by AutoNAT

Review All New Pajero Sport!! รีวิวจ้าา...รถอเนกประสงค์มาดสปอร์ต แห่งยุค 2016 


หลังจากที่วิ่งผ่านพ้น 1000 กิโลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถือโอกาสมา Review เล่าประสบการณ์ให้ฟังกับเจ้ารถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับการตอบรับจากยอดจองที่มากมายเกินคาด All New Mitsubishi Pajero Sport รุ่น 4WD GT-Premium ตัว Top ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และสมรรถนะด้านความปลอดภัยที่มีมาแบบจัดเต็มเหนือคู่แข่งในพิกัดราคาเดียวกัน 


การรีวิวครั้งนี้จะพูดถึงเฉพาะความรู้สึกที่ได้สัมผัสโดยตรง ทั้งข้อดี ข้อที่ควรปรับปรุงมากกว่าที่จะมาเล่ารายละเอียด ออฟชั่นทั้งหมด เพราะว่ามันเยอะมาก และคิดว่าคงสามารถหาอ่านได้เองไม่ยาก

1.รูปลักษณ์ภายนอก: วินาทีแรกถ้าใครได้เห็นก็ต้องสะดุดตาและปิ๊งทันทีแน่ มันเหมือนเห็นหญิงสาวที่หน้าตาดี สวยเฉียบ มาดคม ด้วยการออกแบบที่ดูเป็นสปอร์ต สมชื่อของมัน "Pajero Sport" เส้นสายด้านหน้าไล่มารับกับโป่งล้อด้านข้างที่อวบอิ่ม บึกบึน ดุจดั่งสาวสวยร่างใหญ่บึ่บบับ แต่พอมามองด้านหลังอาจทำให้ชะงักงันไปสามวิ กับไฟท้ายแนวตั้งยาวที่แหวกแนวกว่าใครเพื่อน แล้วยิ่งมาเจอชายกันชนหลังที่เปิดโชว์ก้นโด่งให้เห็นยางอะไหล่ บอกตรงว่าขัดใจคุณแม่อย่างยิ่ง (วิศวกรมิตซูเขาคิดได้ยังไง) วิธีแก้ก็คือไปหาชุดแต่งมาใส่ ซึ่งก็ได้ติดตั้งไปเรียบร้อยดังในภาพปัจจุบันนี้

 



2.รูปลักษณ์ภายใน: ออกแบบได้เฉียบ มองแว่บแรกเห็นคอนโซลหน้าปัทม์ลากยาวลงมาที่เกียร์ ทำให้นึกถึงรถสปอร์ตเปอร์เช่ คาเยน ทีเดียว และปุ่มหมุนปรับโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Super Select ออกแบบมาได้หรูหรา ราวกับปุ่ม Communication and Entertainment คอนโทรลในรถเบนซ์ หรือบีเอ็มดับบิล อย่างนั้นเลย แต่ความสวยก็ต้องแลกมาด้วยความหงุดหงิด เพราะคอนโซลกลางมันเกะกะขาข้างซ้ายของผู้ขับขี่อย่างมาก มันแข็งและน่ารำคาญ สรุปคือสวยแต่น่ารำคาญ เหมือนสาวสวยขี่บ่นน่าหงุดหงิด วัสดุที่ใช้บนคอนโซลอาจจะดูด้อยราคาไปหน่อย ถ้าเทียบกับราคารถระดับล้านสี่ เพราะใช้พลาสติกแข็งเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่เจ้าอื่นเขาใช้วัสดุหุ้มหนังบุนิ่มกันหมดแล้ว เวลาสัมผัส มันให้ฟิลลิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจน ถึงแม้ทางมิตซูจะพยายามแทรกด้วยโทนสีอะลูมิเนี่ยมเหมือนรถเบนซ์รุ่นใหม่ๆก็ตาม แต่ก็ยังไม่ประทับใจจ๊อดอยู่ดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องชมก็คือพวงมาลัยหุ้มหนังที่จับได้กระชับถนัดมือดี เบาะนั่งปรับไฟฟ้าทั้งสองฝั่ง ตัวเบาะหนานุ่มหุ้มหนัง ปีกของเบาะโอบกระชับผู้ขับขี่เป็นอย่างดี นี่คือจุดประทับใจ






3.การตอบสนองการขับขี่:
เมื่อกดคันเร่งลงไปจะพบว่าอัตราเร่งดีจนต้องแอบยิ้มที่มุมปาก อาจจะมีการตอบสนองมีหน่วงประมาณเสี้ยววินาทีในตอนแรก แต่หลังจากนั้นมันจะพุ่งปรู๊ด จนหลังติดเบาะ กดเป็นมาๆ ปรื๊ดๆ น่าประทับใจมาก แซงไม่ต้องลุ้น ต้องขอบคุณระบบ MIVEC และเทอร์โบแปรผัน ที่มีส่วนช่วยอุปการคุณเป็นอย่างดี ความเร็วจะเริ่มเหี่ยวและเอื่อยลงเมื่อตอนเกิน 140 ขึ้นไป และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 188 km/hr (เคลมโดยนักทดสอบ) อาจดูไม่มาก แต่เชื่อสิถ้าใครขับรถสูงขนาดนี้ ความแค่นี้ก็เสียวหมือนนั่งพรมอาลาดินแล้ว มิหนำซ้ำจะโดนคนนั่งข้างหยิกจนแขนเขียวก่อนเป็นแน่แท้ ระบบกันสะเทือนมีการปรับเซ็ทมาให้ในลักษณะนุ่มหนึบนั่งสบายไม่กระเทือน ดีกว่ารุ่นก่อน มีคนมักมาถามว่านั่งแล้วกระเทือนไหม ขอตอบได้เลยว่าไม่แน่นอน ยืนยันได้จากอาหมวยน้อยที่นั่งอยู่เป็นประจำ เธอไม่เคยบ่นให้ฟังเลยแม้แต่นิด ทั้งด้านตอนหน้าและด้านหลังถ้าเทียบกับรถคันอื่น ๆ ของที่บ้าน ส่วนใหญ่จะนั่งแล้วกระเทือนตับแล่บ เช่น Ford Ranger เป็นต้น สำหรับเรื่องการเกาะถนน ผมคิดว่าโอเคนะ ดี พอๆ กับรถเก๋ง ถ้าไม่มั่นใจก็สามารถปรับไปที่โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ท่านจะได้รู้สึกถึงความหนึบอีกระดับขึ้นมาทันที (แลกกับการซดน้ำมันที่ตามมา)


การเข้าโค้งในความเร็วสูง ผมไม่แนะนำ เพราะธรรมชาติของรถที่สูง ย่อมน่าเป็นห่วง ถึงแม้รถจะมีช่วงล่างดี มีระบบช่วยควบคุมการทรงตัวที่ดี แต่อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งใส่มาแบบเร็วๆ มันแทบไม่เหลือโอกาสให้แก้ลำได้เลย จึงไม่อยากให้ไปเสี่ยงตายที่ปลายโค้ง ถ้ามาเร็วๆ ถึงโค้งให้ยกหน่อยดีกว่า แต่ถ้าขับสบาย ๆ พอประมาณ คันนี้เอาอยู่เชื่อป๋าสิ นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบ Super Select แบบ 2H,4H,4HLc,4LLc แถมโหมดฟังก์ชั่นพิเศษย่อยอีก 4 โหมด ได้แก่ 1.Gravel 2.Mud/Snow 3.Sand 4.Rock แต่จุดไฮไลท์ของรถคันนี้ที่ไม่มีในคันอื่นๆ คือระบบเกียร์ ถ้ามีใครมาถามคุณว่า ขอคำตอบเดียวว่าทำไมถึงซื้อรถคันนี้ คำตอบเดียวที่คุณตอบได้เต็มปากเลยก็คือ เกียร์ 8 Speed ครับ (ฟังไม่ผิด) มันสุดยอดมาก จะปรับเปลี่ยนเกียร์เองโดยใช้ Pedal Shift แบบรถ F1 ก็ทำได้ ย้ำมันขับสนุกจริงๆ และจงท่องจำไว้ว่า 8 เกียร์เมียเชิดชู!! 

4.ความสะดวกสบาย: อย่างที่บอกว่าใครซื้อรุ่นนี้ จะไม่ผิดหวังเพราะมิตซูเขาจัดเต็มแบบไม่กั๊ก มีจอทีวีหน้าหลัง แยกอิสระ แถมหูฟังไร้สายมาให้อีกคู่หนึ่งด้วย ด้วยวงเลี้ยวที่แคบ เพียง 5.4 เมตร และกล้อง Around view 360 องศา จำลองให้มองเห็นภาพรถได้รอบคัน ทำให้ใครที่คิดว่าการขับรถใหญ่ในที่แคบ หรือจะจอดเข้าซองนั้นเป็นเรื่องยาก แต่คันนี้สบายมาก ท่านจะลืมการมองกระจกหลังและกระจกมองข้างไปทันที สาวๆ ที่ตัวเล็กก็ขับได้ครับ
สำหรับวิทยุติดรถยนต์ที่ให้มาเป็นของยี่ห้อ Clarion อย่างดี มีแผนที่นำทางมาให้เสร็จสรรพ เบาะนั่งสบาย ขับได้แบบไม่เครียด ที่สำคัญ เป็นเบาะแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทั้งด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า แต่ข้อที่มิตซูน่าจะปรับปรุงนั่นคือ ที่วางของกระจุกกระจิกไม่ค่อยมี ที่เสียบไฟในรถยนต์ก็มีมาให้น้อย และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเสียบอุปกรณ์หลายๆอย่าง ที่สำคัญรถคันนี้ไม่มีซันรูฟ ไม่มีปุ่มเปิดปิดประตูหลังด้วยไฟฟ้าเหมือนคู่แข่งบางยี่ห้อที่มีมาให้ และจุดที่สร้างความไม่สะดวกสบายอีกจุดหนึ่งคือที่จับประตูด้านหน้า ที่มันใหญ่เกะกะทำให้การเปิดกระจกไฟฟ้าไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย

 



5.ระบบความปลอดภัย:
เมื่อคุณนั่งอยู่ในรถคันนี้จะรู้สึกได้ทันทีถึงความมั่นคงปลอดภัยเหมือนอยู่ในชุดเกราะ Iron Man ของโทนี่ สตาร์ค ที่รายล้อมไปด้วยเซ็นเซอร์และระบบอิเล็คทรอนิกส์จะพร้อมจะคอยส่งสัญญานเตือนผู้ขับขี่ไม่ให้นั่งเหงาหาวหวอด แต่บางคนก็อาจจะรำคาญถึงกับต้องกดปุ่ม turn off ระบบต่างๆไปบ้างก็มี นอกจากนี้เจ้า All Pajero Sport คันนี้ยังมีอุปกรณ์ช่วยควบคุมการทรงตัวมีมาให้มากมาย มีระบบช่วยเบรค และช่วยชะลอความเร็วให้ เรียกว่าเป็นรถที่อยู่ด้วยแล้วอุ่นใจ บางคนกังวลว่าระบบไฟฟ้าเยอะแบบนี้จะเสียง่ายไหม ขอบอกว่าคงไม่ง่ายหรอกเพราะมิตซูเขาเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ไม่เชื่อลองดูอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในบ้านสิ มิตซูทั้งนั้น สุดท้ายต้องยกนิ้วให้ เรื่องความแข็งแรงปลอดภัยของตัวถังเพราะได้ 5 ดาวด้านความปลอดภัยในการทดสอบชนมาแล้วจากสองสถาบันทั้ง ANCAP และ Latin NCAP แถมยังมี Airbag ให้ถึง 7 ลูก มีที่เข่าและม่านนริภัย และอุปกรณ์ป้องกันการชนด้านหน้าอีกด้วย

สรุป: เจ้า PJS มิตซู ปาเจโร่ สปอร์ตใหม่นี้ ถ้าได้ตัว TOP ที่มีออฟชั่นครบ มันเป็นรถที่แทบจะสมบูรณ์ คุ้มค่าคุ้มราคาน่าและประทับใจมาก ถ้าเทียบราคากับรถคู่แข่งในพิกัดเดียวกันด้วย เกินคาด ถ้าใครจะซื้อหรือกำลังลังเล ชั่งใจ ก็แน่ะนำเลย หรือจะไปลองขับดูที่โชว์รูมก่อนก็ได้ถ้าไม่เชื่อผม แต่ถามว่ารถอะไรที่พอจะโค่นคันนี้ได้ คำตอบคือไม่ใช่ฟอร์จูนเนอร์แน่นอน แต่มันเป็นฟอร์ด เอเวอร์เรสนั่นเอง (แต่นั่นคุณต้องพร้อมจะจ่ายเพิ่มอีกแสนกว่าเกือบสองแสนนะ แล้วรอรถอีกหลายเดือน)

คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ : โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ และฟอร์ด เอเวอร์เรส ตัว TOP 
คู่ปรับระดับรองลงมา : Isuzu MU-X, เชฟโลเร็ต ไทรเบเซอร์