วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

All New Pajero Sport 2016 Reviewed by AutoNAT

Review All New Pajero Sport!! รีวิวจ้าา...รถอเนกประสงค์มาดสปอร์ต แห่งยุค 2016 


หลังจากที่วิ่งผ่านพ้น 1000 กิโลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถือโอกาสมา Review เล่าประสบการณ์ให้ฟังกับเจ้ารถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับการตอบรับจากยอดจองที่มากมายเกินคาด All New Mitsubishi Pajero Sport รุ่น 4WD GT-Premium ตัว Top ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และสมรรถนะด้านความปลอดภัยที่มีมาแบบจัดเต็มเหนือคู่แข่งในพิกัดราคาเดียวกัน 


การรีวิวครั้งนี้จะพูดถึงเฉพาะความรู้สึกที่ได้สัมผัสโดยตรง ทั้งข้อดี ข้อที่ควรปรับปรุงมากกว่าที่จะมาเล่ารายละเอียด ออฟชั่นทั้งหมด เพราะว่ามันเยอะมาก และคิดว่าคงสามารถหาอ่านได้เองไม่ยาก

1.รูปลักษณ์ภายนอก: วินาทีแรกถ้าใครได้เห็นก็ต้องสะดุดตาและปิ๊งทันทีแน่ มันเหมือนเห็นหญิงสาวที่หน้าตาดี สวยเฉียบ มาดคม ด้วยการออกแบบที่ดูเป็นสปอร์ต สมชื่อของมัน "Pajero Sport" เส้นสายด้านหน้าไล่มารับกับโป่งล้อด้านข้างที่อวบอิ่ม บึกบึน ดุจดั่งสาวสวยร่างใหญ่บึ่บบับ แต่พอมามองด้านหลังอาจทำให้ชะงักงันไปสามวิ กับไฟท้ายแนวตั้งยาวที่แหวกแนวกว่าใครเพื่อน แล้วยิ่งมาเจอชายกันชนหลังที่เปิดโชว์ก้นโด่งให้เห็นยางอะไหล่ บอกตรงว่าขัดใจคุณแม่อย่างยิ่ง (วิศวกรมิตซูเขาคิดได้ยังไง) วิธีแก้ก็คือไปหาชุดแต่งมาใส่ ซึ่งก็ได้ติดตั้งไปเรียบร้อยดังในภาพปัจจุบันนี้

 



2.รูปลักษณ์ภายใน: ออกแบบได้เฉียบ มองแว่บแรกเห็นคอนโซลหน้าปัทม์ลากยาวลงมาที่เกียร์ ทำให้นึกถึงรถสปอร์ตเปอร์เช่ คาเยน ทีเดียว และปุ่มหมุนปรับโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Super Select ออกแบบมาได้หรูหรา ราวกับปุ่ม Communication and Entertainment คอนโทรลในรถเบนซ์ หรือบีเอ็มดับบิล อย่างนั้นเลย แต่ความสวยก็ต้องแลกมาด้วยความหงุดหงิด เพราะคอนโซลกลางมันเกะกะขาข้างซ้ายของผู้ขับขี่อย่างมาก มันแข็งและน่ารำคาญ สรุปคือสวยแต่น่ารำคาญ เหมือนสาวสวยขี่บ่นน่าหงุดหงิด วัสดุที่ใช้บนคอนโซลอาจจะดูด้อยราคาไปหน่อย ถ้าเทียบกับราคารถระดับล้านสี่ เพราะใช้พลาสติกแข็งเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่เจ้าอื่นเขาใช้วัสดุหุ้มหนังบุนิ่มกันหมดแล้ว เวลาสัมผัส มันให้ฟิลลิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจน ถึงแม้ทางมิตซูจะพยายามแทรกด้วยโทนสีอะลูมิเนี่ยมเหมือนรถเบนซ์รุ่นใหม่ๆก็ตาม แต่ก็ยังไม่ประทับใจจ๊อดอยู่ดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องชมก็คือพวงมาลัยหุ้มหนังที่จับได้กระชับถนัดมือดี เบาะนั่งปรับไฟฟ้าทั้งสองฝั่ง ตัวเบาะหนานุ่มหุ้มหนัง ปีกของเบาะโอบกระชับผู้ขับขี่เป็นอย่างดี นี่คือจุดประทับใจ






3.การตอบสนองการขับขี่:
เมื่อกดคันเร่งลงไปจะพบว่าอัตราเร่งดีจนต้องแอบยิ้มที่มุมปาก อาจจะมีการตอบสนองมีหน่วงประมาณเสี้ยววินาทีในตอนแรก แต่หลังจากนั้นมันจะพุ่งปรู๊ด จนหลังติดเบาะ กดเป็นมาๆ ปรื๊ดๆ น่าประทับใจมาก แซงไม่ต้องลุ้น ต้องขอบคุณระบบ MIVEC และเทอร์โบแปรผัน ที่มีส่วนช่วยอุปการคุณเป็นอย่างดี ความเร็วจะเริ่มเหี่ยวและเอื่อยลงเมื่อตอนเกิน 140 ขึ้นไป และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 188 km/hr (เคลมโดยนักทดสอบ) อาจดูไม่มาก แต่เชื่อสิถ้าใครขับรถสูงขนาดนี้ ความแค่นี้ก็เสียวหมือนนั่งพรมอาลาดินแล้ว มิหนำซ้ำจะโดนคนนั่งข้างหยิกจนแขนเขียวก่อนเป็นแน่แท้ ระบบกันสะเทือนมีการปรับเซ็ทมาให้ในลักษณะนุ่มหนึบนั่งสบายไม่กระเทือน ดีกว่ารุ่นก่อน มีคนมักมาถามว่านั่งแล้วกระเทือนไหม ขอตอบได้เลยว่าไม่แน่นอน ยืนยันได้จากอาหมวยน้อยที่นั่งอยู่เป็นประจำ เธอไม่เคยบ่นให้ฟังเลยแม้แต่นิด ทั้งด้านตอนหน้าและด้านหลังถ้าเทียบกับรถคันอื่น ๆ ของที่บ้าน ส่วนใหญ่จะนั่งแล้วกระเทือนตับแล่บ เช่น Ford Ranger เป็นต้น สำหรับเรื่องการเกาะถนน ผมคิดว่าโอเคนะ ดี พอๆ กับรถเก๋ง ถ้าไม่มั่นใจก็สามารถปรับไปที่โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ท่านจะได้รู้สึกถึงความหนึบอีกระดับขึ้นมาทันที (แลกกับการซดน้ำมันที่ตามมา)


การเข้าโค้งในความเร็วสูง ผมไม่แนะนำ เพราะธรรมชาติของรถที่สูง ย่อมน่าเป็นห่วง ถึงแม้รถจะมีช่วงล่างดี มีระบบช่วยควบคุมการทรงตัวที่ดี แต่อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งใส่มาแบบเร็วๆ มันแทบไม่เหลือโอกาสให้แก้ลำได้เลย จึงไม่อยากให้ไปเสี่ยงตายที่ปลายโค้ง ถ้ามาเร็วๆ ถึงโค้งให้ยกหน่อยดีกว่า แต่ถ้าขับสบาย ๆ พอประมาณ คันนี้เอาอยู่เชื่อป๋าสิ นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบ Super Select แบบ 2H,4H,4HLc,4LLc แถมโหมดฟังก์ชั่นพิเศษย่อยอีก 4 โหมด ได้แก่ 1.Gravel 2.Mud/Snow 3.Sand 4.Rock แต่จุดไฮไลท์ของรถคันนี้ที่ไม่มีในคันอื่นๆ คือระบบเกียร์ ถ้ามีใครมาถามคุณว่า ขอคำตอบเดียวว่าทำไมถึงซื้อรถคันนี้ คำตอบเดียวที่คุณตอบได้เต็มปากเลยก็คือ เกียร์ 8 Speed ครับ (ฟังไม่ผิด) มันสุดยอดมาก จะปรับเปลี่ยนเกียร์เองโดยใช้ Pedal Shift แบบรถ F1 ก็ทำได้ ย้ำมันขับสนุกจริงๆ และจงท่องจำไว้ว่า 8 เกียร์เมียเชิดชู!! 

4.ความสะดวกสบาย: อย่างที่บอกว่าใครซื้อรุ่นนี้ จะไม่ผิดหวังเพราะมิตซูเขาจัดเต็มแบบไม่กั๊ก มีจอทีวีหน้าหลัง แยกอิสระ แถมหูฟังไร้สายมาให้อีกคู่หนึ่งด้วย ด้วยวงเลี้ยวที่แคบ เพียง 5.4 เมตร และกล้อง Around view 360 องศา จำลองให้มองเห็นภาพรถได้รอบคัน ทำให้ใครที่คิดว่าการขับรถใหญ่ในที่แคบ หรือจะจอดเข้าซองนั้นเป็นเรื่องยาก แต่คันนี้สบายมาก ท่านจะลืมการมองกระจกหลังและกระจกมองข้างไปทันที สาวๆ ที่ตัวเล็กก็ขับได้ครับ
สำหรับวิทยุติดรถยนต์ที่ให้มาเป็นของยี่ห้อ Clarion อย่างดี มีแผนที่นำทางมาให้เสร็จสรรพ เบาะนั่งสบาย ขับได้แบบไม่เครียด ที่สำคัญ เป็นเบาะแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทั้งด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า แต่ข้อที่มิตซูน่าจะปรับปรุงนั่นคือ ที่วางของกระจุกกระจิกไม่ค่อยมี ที่เสียบไฟในรถยนต์ก็มีมาให้น้อย และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเสียบอุปกรณ์หลายๆอย่าง ที่สำคัญรถคันนี้ไม่มีซันรูฟ ไม่มีปุ่มเปิดปิดประตูหลังด้วยไฟฟ้าเหมือนคู่แข่งบางยี่ห้อที่มีมาให้ และจุดที่สร้างความไม่สะดวกสบายอีกจุดหนึ่งคือที่จับประตูด้านหน้า ที่มันใหญ่เกะกะทำให้การเปิดกระจกไฟฟ้าไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย

 



5.ระบบความปลอดภัย:
เมื่อคุณนั่งอยู่ในรถคันนี้จะรู้สึกได้ทันทีถึงความมั่นคงปลอดภัยเหมือนอยู่ในชุดเกราะ Iron Man ของโทนี่ สตาร์ค ที่รายล้อมไปด้วยเซ็นเซอร์และระบบอิเล็คทรอนิกส์จะพร้อมจะคอยส่งสัญญานเตือนผู้ขับขี่ไม่ให้นั่งเหงาหาวหวอด แต่บางคนก็อาจจะรำคาญถึงกับต้องกดปุ่ม turn off ระบบต่างๆไปบ้างก็มี นอกจากนี้เจ้า All Pajero Sport คันนี้ยังมีอุปกรณ์ช่วยควบคุมการทรงตัวมีมาให้มากมาย มีระบบช่วยเบรค และช่วยชะลอความเร็วให้ เรียกว่าเป็นรถที่อยู่ด้วยแล้วอุ่นใจ บางคนกังวลว่าระบบไฟฟ้าเยอะแบบนี้จะเสียง่ายไหม ขอบอกว่าคงไม่ง่ายหรอกเพราะมิตซูเขาเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ไม่เชื่อลองดูอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในบ้านสิ มิตซูทั้งนั้น สุดท้ายต้องยกนิ้วให้ เรื่องความแข็งแรงปลอดภัยของตัวถังเพราะได้ 5 ดาวด้านความปลอดภัยในการทดสอบชนมาแล้วจากสองสถาบันทั้ง ANCAP และ Latin NCAP แถมยังมี Airbag ให้ถึง 7 ลูก มีที่เข่าและม่านนริภัย และอุปกรณ์ป้องกันการชนด้านหน้าอีกด้วย

สรุป: เจ้า PJS มิตซู ปาเจโร่ สปอร์ตใหม่นี้ ถ้าได้ตัว TOP ที่มีออฟชั่นครบ มันเป็นรถที่แทบจะสมบูรณ์ คุ้มค่าคุ้มราคาน่าและประทับใจมาก ถ้าเทียบราคากับรถคู่แข่งในพิกัดเดียวกันด้วย เกินคาด ถ้าใครจะซื้อหรือกำลังลังเล ชั่งใจ ก็แน่ะนำเลย หรือจะไปลองขับดูที่โชว์รูมก่อนก็ได้ถ้าไม่เชื่อผม แต่ถามว่ารถอะไรที่พอจะโค่นคันนี้ได้ คำตอบคือไม่ใช่ฟอร์จูนเนอร์แน่นอน แต่มันเป็นฟอร์ด เอเวอร์เรสนั่นเอง (แต่นั่นคุณต้องพร้อมจะจ่ายเพิ่มอีกแสนกว่าเกือบสองแสนนะ แล้วรอรถอีกหลายเดือน)

คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ : โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ และฟอร์ด เอเวอร์เรส ตัว TOP 
คู่ปรับระดับรองลงมา : Isuzu MU-X, เชฟโลเร็ต ไทรเบเซอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น